TH EN

พิธีการศุลกากรคืออะไร ขั้นตอนสำคัญที่ต้องรู้ก่อนนำเข้า-ส่งออก

หัวข้อ

การค้าระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ต่างก็มองหาช่องทางเติบโต ทั้งการนำเข้าสินค้าคุณภาพดีที่น่าสนใจ หรือการส่งออกสินค้าที่ผลิตไปยังประเทศเป้าหมายก็ดี แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พิธีการศุลกากร ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการนำเข้าและส่งออกสินค้า ที่หากละเลยไป ก็อาจส่งผลต่อธุรกิจและภาพลักษณ์ได้ไม่น้อย

 

ในบทความนี้ จะพาผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกทุกท่าน มาทำความเข้าใจกับพิธีการศุลกากรให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสำคัญ ขั้นตอน และเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น หมดห่วงเรื่องปัญหาที่อาจตามมา

 

พิธีการศุลกากรคืออะไร

พิธีการศุลกากร (Custom Clearance) คือ กระบวนการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าที่ต้องมีการยื่นเอกสารแสดงรายละเอียดต่างๆ เพื่อรับการตรวจสอบและอนุมัติโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร โดยขั้นตอนหลักๆ ของพิธีการศุลกากรประกอบด้วย การส่งเอกสารศุลกากรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ การประเมินเอกสารศุลกากรและตรวจสอบสินค้า การคำนวณอากรและภาษีนำเข้า และการชำระอากรและภาษี และเมื่อดำเนินพิธีการศุลกากรเรียบร้อยแล้ว ก็จะถือว่าสินค้านั้นได้รับการนำเข้ามายังประเทศ หรือสามารถดำเนินการส่งออกไปยังประเทศปลายทางได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

 

พิธีการศุลกากรสำคัญอย่างไร

พิธีการศุลกากร มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโดยรวม ดังนี้

  • ป้องกันการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย: การตรวจสอบสินค้าของพิธีการศุลกากร จะช่วยป้องกันการนำเข้าสินค้าปลอม สินค้าห้ามนำเข้า และสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประเทศ
  • ช่วยจัดเก็บภาษีอากร: พิธีการศุลกากรเป็นขั้นตอนสำคัญในการเรียกเก็บภาษีอากรจากผู้ประกอบการต่างๆ ที่ถือว่าเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป
  • ป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี: พิธีการศุลกากรยังช่วยป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีของผู้ประกอบการ ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศและการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
  • คุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศ: พิธีการศุลกากรช่วยลดช่องว่างในการแข่งขันจากต่างประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมภายในประเทศสามารถแข่งขันกับสินค้าจากต่างประเทศได้
  • ช่วยเก็บข้อมูลสถิติ: ข้อมูลจากการชำระภาษีอากรจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าของประเทศต่อไป

 

พิธีการศุลกากรมีแบบใดบ้าง

พิธีการศุลกากรจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ พิธีการศุลกากรขาเข้า (การนำเข้าสินค้า) และพิธีการศุลกากรขาออก (การส่งออกสินค้า)

 

พิธีการศุลกากรขาเข้า (นำเข้าสินค้า)

พิธีการศุลกากรขาเข้า เป็นกระบวนการที่สินค้าจากต่างประเทศถูกตรวจสอบก่อนนำเข้ามาในประเทศไทย โดยผู้นำเข้าหรือตัวแทนชิปปิ้งจะต้องเตรียมเอกสารรายการสินค้านำเข้าและข้อมูลต่างๆ เข้ามายื่นต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป 

 

โดยสินค้าที่นำเข้าจะยังไม่ถือว่าเป็นสินค้าที่นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จนกว่าจะผ่านการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรและชำระภาษีอากรขาเข้าเรียบร้อยแล้ว จึงจะถือว่าเป็นสินค้าที่ได้รับการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถนำเข้ามายังโกดัง หรือทำการซื้อขายต่อไปได้

 

พิธีการศุลกากรขาออก (ส่งออกสินค้า)

พิธีการศุลกากรขาออก เป็นกระบวนการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทั้งตัวสินค้าและเอกสารในการส่งออกว่าเป็นไปตามระเบียบการที่กรมศุลกากรของประเทศนั้นๆ เป็นการตรวจเช็กสินค้าที่จะออกนอกประเทศ ตรวจสอบเอกสารต่างๆ รวมไปถึงชำระภาษีอากรสำหรับการส่งออก หากชำระอากรและได้รับอนุญาตแล้ว จึงจะสามารถดำเนินการส่งออกสินค้าออกไปยังประเทศเป้าหมายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

 

เอกสารสำหรับพิธีการศุลกากร

สำหรับเอกสารสำคัญสำหรับใช้ในพิธีการศุลกากรนั้น มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้

 

    • ใบขนสินค้าขาเข้า (Import Declaration): เอกสารที่แสดงรายละเอียดต่างๆ ของสินค้าที่นำเข้า เช่น ชนิด ขนาด ราคา และข้อมูลอื่นๆ
  • ใบขนสินค้าขาออก (Export Declaration): เอกสารที่ใช้แสดงรายละเอียดสินค้าและข้อมูลผู้ส่งออก
    • บัญชีราคาสินค้า (Commercial Invoice): เอกสารที่แสดงรายละเอียดต่างๆ ของการซื้อขายสินค้า เช่น ราคา จำนวน และเงื่อนไขการซื้อขาย
    • ใบรายการบรรจุหีบห่อ (Packing List): เอกสารแสดงรายละเอียดการบรรจุหีบห่อสินค้า เช่น ประเภท จำนวน น้ำหนัก และขนาด
    • ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading, B/L หรือ Air Way Bill): เอกสารหลักฐานการจัดส่งสินค้า โดย Bill of Lading จะเป็นใบตราส่งสินค้าทางทะเล ส่วน Air Way Bill จะเป็นใบตราส่งสินค้าทางอากาศ
  • ใบแจ้งยอดประกัน (Insurance Premium Invoice): ใช้สำหรับแสดงการทำประกันภัยสินค้าระหว่างขนส่ง (ถ้ามี)
  • ใบอนุญาตการนำเข้า-ส่งออก: สำหรับสินค้าที่มีการควบคุม ต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin): สำหรับการยืนยันแหล่งผลิตของสินค้า มักใช้ในการขอลดหย่อนภาษีอากร
  • เอกสารอื่นๆ: เช่น เอกสารรับรองสินค้าชนิดต่างๆ แคตตาล็อกสินค้า หรือเอกสารเฉพาะตามประเภทสินค้า

 

พิกัดอัตราศุลกากร ดูอย่างไร

นอกจากสินค้าและเอกสารแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการหรือตัวแทนขนส่งจะต้องเตรียมให้พร้อม นั่นคือ พิกัดอัตราศุลกากร ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้ในการจำแนกประเภทสินค้าเพื่อกำหนดอัตราภาษีและการควบคุมในการนำเข้าและส่งออก โดยผู้ประกอบการควรตรวจสอบพิกัดอัตราศุลกากรของสินค้าให้ถูกต้องเพื่อการคำนวณภาษีที่ถูกต้องตามจริงและหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ในการผ่านพิธีการศุลกากร เพราะหากมีการใส่พิกัดอัตราศุลกากรที่ผิดตำแหน่ง เช่น การใส่พิกัดของรถบรรทุกในสินค้าโฟล์คลิฟท์ ก็อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าที่ควร หรืออาจถูกมองว่าเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีได้

 

โดยพิกัดอัตราศุลกากรของสินค้านั้น ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบได้จากบนเว็บไซต์ของกรมศุลกากร หรือปรึกษากับทางชิปปิ้งในการเลือกใช้พิกัดอัตราศุลกากรที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสินค้าของเรามากที่สุด

 

ขั้นตอนการดำเนินพิธีการศุลกากร

ผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าจำเป็นต้องผ่านการดำเนินพิธีการศุลกากร ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้สินค้าสามารถเคลื่อนย้ายเข้า-ออกประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และการดำเนินพิธีการศุลกากรในปัจจุบัน ก็ได้มีการพัฒนาให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

 

ขั้นตอนการดำเนินพิธีการศุลกากรขาเข้า

  1. ยื่นเอกสารข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า: กรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เช่น ข้อมูลการขนส่ง ใบตราส่งสินค้า บัญชีราคาสินค้า และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  2. ยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้าให้กับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร: เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น หากมีข้อมูลผิดพลาดจะต้องทำการแก้ไขให้ถูกต้อง จากนั้นศุลกากรจะออกเลขที่ใบขนสินค้าให้
  3. เจ้าหน้าที่แจ้งรายละเอียดเงื่อนไขภาษีอากร: ศุลกากรจะแจ้งข้อมูล รายละเอียด และเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงการเสียภาษีอากรให้ทราบ
  4. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและปล่อยสินค้า: หลังจากยื่นใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมกับใบเสร็จรับเงินค่าภาษีอากร เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบสินค้า หากไม่มีปัญหาอะไร ก็จะปล่อยสินค้าไปยังที่อยู่หรือคลังสินค้าของผู้นำเข้าต่อไป

 

โดยการชำระภาษีศุลกากรสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ชำระด้วยตนเองที่หน่วยชำระเงินของกรมศุลกากร ชำระในระบบ e-Payment หรือชำระในระบบ e-Bill Payment

 

ขั้นตอนการดำเนินพิธีการศุลกากรขาออก

  1. เตรียมเอกสารประกอบการส่งออก: จัดเตรียมเอกสารต่างๆ เช่น บัญชีราคาสินค้า, ใบรายการบรรจุหีบห่อ, ใบตราส่งสินค้า และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  2. ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร: นำเอกสารที่เตรียมไว้ยื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ
  3. ชำระภาษีและตรวจสอบสินค้า: ผู้ส่งออกจะต้องชำระภาษีศุลกากรตามที่กำหนด แล้วเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบสินค้าว่าตรงกับเอกสารหรือไม่
  4. ปล่อยสินค้า: หลังจากชำระภาษีและตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หากไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ส่งออกสินค้าออกนอกประเทศต่อไป

อย่างที่เห็นว่า ขั้นตอนต่างๆ ของพิธีการศุลกากรถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากจัดการได้ไม่ดี ก็จะสามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจไปจนถึงระดับประเทศได้ ดังนั้น การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีจะช่วยให้กระบวนการผ่านพิธีการศุลกากรเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้ประกอบการควรมีการวางแผนและจัดการระบบ โลจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

package delivery
 

บริษัท ยูพีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดจำหน่ายพาเลทพลาสติกและพาเลทไม้สำหรับเช่า/ซื้อ ชั้นวางพาเลท อุปกรณ์จัดเก็บ ฟิล์มยืด ระบบจัดการพาเลท และอุปกรณ์โลจิสติกส์ครบครัน รวมไปถึงบริการโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

 

พวกเราพร้อมให้บริการที่รวดเร็ว ครอบคลุม และเป็นมืออาชีพด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในไทย

 

ติดต่อเรา

กรอกแบบฟอร์ม: www.upr-thailand.co.th/contact/inquiries/

โทร.: +66-2-672-5100

อีเมล: info-thailand@upr-net.co.jp  

บริษัท ยูพีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด > > โลจิสติกส์ >

contact us ติดต่อเรา โทรหาเรา line Line Official