TH EN

รู้ก่อนเลือก! 6 ประเภทของชั้นวางสินค้าในโกดัง ยอดนิยมพร้อมข้อดีข้อเสียที่ต้องรู้

หัวข้อ

close up image of selective rack

การเลือกชั้นวางโกดัง หรือชั้นวางสินค้าในโกดังที่เหมาะสมถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของการบริหารคลังสินค้าอย่างมืออาชีพ เพราะนอกจากช่วยให้ใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และรองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

สำหรับธุรกิจที่ต้องการติดตั้งหรือปรับโครงสร้างชั้นวางโกดัง คุณสามารถพิจารณาบริการจาก UPR Thailand ซึ่งจำหน่ายอุปกรณ์คลังสินค้าและชั้นวางพาเลทหลายแบบ และมีโซลูชันครบวงจรตามความต้องการของคลังสินค้าไทย

ในบทความนี้ UPR Thailand จะพาไปดูประเภทของชั้นวางสินค้าในโกดัง พร้อมข้อดี-ข้อเสีย เพื่อให้คุณเลือกได้ตรงจุดที่สุด

 

6 ประเภท “ชั้นวางของในโกดัง” ที่ต้องมีติดคลังสินค้า 

1. Selective Rack  ชั้นวางโกดังแบบมาตรฐาน เข้าถึงง่ายที่สุด

Selective Rack (ชั้นวางโกดังมาตรฐาน) คือระบบชั้นวางที่นิยมมากที่สุดในคลังสินค้าทั่วไป เพราะให้เข้าถึงพาเลททุกตำแหน่งได้โดยตรง

ข้อดี

  • เข้าถึงพาเลทได้ทุกจุด (เหมาะกับระบบ FIFO ในคลังที่หมุนเวียนเร็ว)
  • สามารถปรับระดับชั้นได้ตามขนาดของพาเลทหรือสินค้า
  • ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะทั้งคลังสินค้าทั่วไป โรงงาน หรือศูนย์กระจายสินค้า

    ข้อเสีย

    • ใช้พื้นที่ทางเดินระหว่างแถวค่อนข้างมาก ทำให้ความหนาแน่นในการจัดเก็บน้อยกว่าระบบอื่น
    • หากต้องการใช้พื้นที่แนวดิ่งสูงมาก ก็อาจจะยังไม่คุ้มค่ามากเท่าระบบความหนาแน่นสูง

    เหมาะกับ คลังสินค้าที่มี SKU หลากหลาย หมุนเวียนสินค้าแบบเร็ว เช่น สินค้าอุปโภค-บริโภค

    2. Drive-In Rack  ชั้นวางโกดังความหนาแน่นสูง

    Drive-In Rack (ชั้นวางโกดังแบบขับเข้าได้) เหมาะกับคลังสินค้าที่ต้องการใช้พื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยรถโฟล์คลิฟต์สามารถขับเข้าไปภายในแถวชั้นวางได้

    ข้อดี

    • ใช้งานพื้นที่จัดเก็บได้สูงมาก (ความหนาแน่นของพื้นที่สูงขึ้น)
    • เหมาะกับสินค้าที่เป็นแบบเดียวกัน (SKU เดียว) และในปริมาณมาก

      ข้อเสีย

      • รองรับระบบ LIFO (เข้า–ออกทางเดียว) ทำให้ไม่เหมาะกับสินค้าที่ต้องหมุนเวียนเข้า-ออกบ่อยตาม FIFO
      • ต้องใช้โฟล์คลิฟต์รุ่นที่เหมาะสมและมีพื้นที่ทางเดินให้ขับเข้าได้อย่างปลอดภัย

      เหมาะกับ คลังสินค้าสำหรับสินค้าแบบเดียวจำนวนมาก เช่น สินค้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหนัก หรือคลังเก็บสินค้าฤดูเดียว

      3. Double Deep Rack ชั้นวางโกดังแบบซ้อนคู่

      Double Deep Rack (ชั้นวางโกดังซ้อนคู่) เป็นการพัฒนาจาก Selective โดยสามารถจัดวางได้สองแถวติดกัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นมากขึ้น

      ข้อดี

      • ใช้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ Selective 
      • ลดจำนวนทางเดิน เซฟพื้นที่ได้มากขึ้น

      ข้อเสีย

      • ต้องใช้ Reach Truck หรือโฟล์คลิฟต์พิเศษเพื่อเข้าถึงแถวที่อยู่ลึก
      • การเข้าถึงพาเลทแถวหลังจะยากกว่า ทำให้ความยืดหยุ่นน้อยกว่าสำหรับการหมุนเวียนบ่อย

      เหมาะกับ คลังสินค้าขนาดกลางที่ต้องการจัดเก็บให้ได้มากขึ้น แต่ยังต้องเข้าถึงได้อยู่ เช่น สินค้าที่หมุนเวียนไม่สูงมาก

      4. Mezzanine Floor  ชั้นลอยสร้างพื้นที่แนวดิ่ง

      Mezzanine Floor (ชั้นลอยในโกดัง) คือการเพิ่มชั้นกลางในโกดังเพื่อใช้พื้นที่แนวดิ่งอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องขยายอาคาร

      ข้อดี

      • ใช้พื้นที่แนวดิ่งได้เต็มศักยภาพ เพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ทันที
      • สามารถใช้งานเป็นโซนจัดเก็บ หรือโซนสำนักงาน/หยิบของภายในคลังเดียวกัน

      ข้อเสีย

      • ต้องคำนวณโครงสร้างเหล็กและน้ำหนักรองรับ และมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงกว่าชั้นวางทั่วไป
      • อาจมีข้อจำกัดเรื่องความสูงเพดานและระบบดับเพลิง/การระบายอากาศ

      เหมาะกับ คลังสินค้าขนาดกลาง-ใหญ่ โรงงาน หรือศูนย์กระจายสินค้า ที่มีเพดานสูงและต้องการใช้พื้นที่แนวดิ่งให้เต็มที่

      5. Mobile Rack  ชั้นวางโกดังแบบเลื่อน (High Density)

      Mobile Rack (ชั้นวางสินค้าในโกดังแบบเลื่อนราง) เป็นระบบชั้นวางที่ติดตั้งบนรางให้เลื่อนได้ เปิดทางเดินเฉพาะจุดที่ต้องการเข้า

      ข้อดี

      • ใช้พื้นที่จัดเก็บได้สูงสุด (ความหนาแน่นสูงมาก) เพราะลดจำนวนทางเดินลง
      • ควบคุมการเข้าถึงสินค้าได้ดี เหมาะกับระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ

      ข้อเสีย

      • ราคาติดตั้งสูง และต้องมีระบบควบคุมหรือไฟฟ้า
      • ไม่เหมาะกับสินค้าที่ต้องเข้าถึงบ่อยหรือหมุนเวียนเร็ว

      เหมาะกับ คลังสินค้าขนาดใหญ่, คลังเอกสาร, ศูนย์เก็บสินค้าที่เน้นจัดเก็บมาก-หยิบไม่บ่อย

      6. Carton Flow Rack  ชั้นวางสำหรับหยิบสินค้ารวดเร็ว

      Carton Flow Rack (ระบบชั้นวางสินค้าในโกดังแบบรางลื่น) เหมาะสำหรับงาน Picking โดยใช้ระบบรางที่สินค้าเลื่อนไหลจากหลังมาหน้าให้หยิบง่าย

      ข้อดี

      • เหมาะกับระบบ FIFO จริง ๆ ทำให้การหยิบสินค้าเร็วและมีประสิทธิภาพ
      • เหมาะกับคลัง E-Commerce ที่หยิบสินค้าหลายรายการบ่อย

      ข้อเสีย

      • รองรับเฉพาะสินค้าน้ำหนักเบา-กลาง และต้องมีการดูแลรางลื่นให้สะอาด
      • ไม่เหมาะกับพาเลทขนาดใหญ่หรือสินค้าน้ำหนักมาก

      เหมาะกับ งานหยิบสินค้า (Order Picking) เช่น คลัง E-Commerce, คลังอาหารแปรรูป, ระบบ Fulfillment

       

      เปรียบเทียบประเภทชั้นวางโกดัง (ชั้นวางสินค้าในโกดัง)

      ประเภทชั้นวาง ระบบการจัดเก็บ ความหนาแน่นพื้นที่ การเข้าถึงพาเลท ความเหมาะสม
      Selective Rack FIFO สูง เข้าถึงง่าย คลังทั่วไป
      Drive-In Rack LIFO ปานกลาง-สูง เข้าถึงปานกลาง สินค้า SKU เดียว จํานวนมาก
      Double Deep Rack LIFO สูง ยากขึ้นเล็กน้อย พื้นที่จำกัด / สินค้าไม่หมุนเร็ว
      Mezzanine Floor สูงมาก เข้าถึงเฉพาะโซน โรงงาน / ศูนย์กระจายสินค้า
      Mobile Rack FIFO / LIFO สูงมาก ระบบอัตโนมัติ พื้นที่จำกัดมาก / สูงมาก
      Carton Flow Rack FIFO ปานกลาง เข้าถึงเร็ว งานหยิบของ เช่น E-commerce

       

      เทคนิคเลือกชั้นวางโกดัง (ชั้นวางสินค้าโกดัง) ให้เหมาะกับธุรกิจคุณ

      1. ประเมินน้ำหนักพาเลทและประเภทสินค้า  หากเป็นสินค้าหนักหรือพาเลทขนาดใหญ่ ควรเลือกชั้นวางที่รองรับน้ำหนักได้ดี และจากผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญ เช่น UPR Thailand ซึ่งมีบริการชั้นวางพาเลทหลายแบบและอุปกรณ์คลังสินค้า
      2. ดู Flow การทำงานในคลัง  สินค้าหมุนเวียนเร็วควรเลือกระบบที่เข้าถึงง่าย เช่น Selective หรือ Carton Flow
      3. คำนวณพื้นที่ทางเดินและความสูงของอาคาร  เพื่อใช้พื้นที่แนวดิ่งให้เต็มที่ และลดการเสียพื้นที่ทางเดิน
      4. เลือกผู้ผลิต/ผู้ติดตั้งที่มีมาตรฐาน UPR Thailand ระบุว่า “มีอุปกรณ์คลังสินค้าที่หลากหลาย พร้อมส่งมอบสินค้าคุณภาพสูง…ให้ลูกค้าสามารถใช้บริการด้วยความมั่นใจ ไร้กังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย”
      5. วางแผนการขยายคลังในอนาคต  เลือกระบบที่รองรับการเพิ่มขึ้นของสินค้าหรือขยายกิจการได้ง่าย

       

      คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

      Q: ชั้นวางโกดังแบบไหนที่ประหยัดพื้นที่ที่สุด?
      A: ระบบ Mobile Rack และ Drive-In Rack จะใช้พื้นที่ได้มากที่สุด เหมาะกับคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่ต้องการความหนาแน่นสูง

      Q: ถ้าโกดังมีสินค้าหลากหลายประเภท ควรใช้ชั้นวางแบบไหนดี?
      A: Selective Rack เหมาะสุด เพราะปรับระดับชั้นได้และเข้าถึงพาเลทได้ทุกจุด

      Q: ควรเลือกชั้นวางสินค้าทำจากวัสดุอะไรดีที่สุด?
      A: องค์ประกอบที่ดีคือ โครงเหล็กที่ได้มาตรฐาน เคลือบกันสนิม และได้รับการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับน้ำหนักได้และใช้งานปลอดภัย

      selective rack in a warehouse

       

      ลงทุนชั้นวางโกดังให้เหมาะ ใช้งานคุ้มค่า ปลอดภัย

      การเลือก “ชั้นวางโกดัง” หรือ “ชั้นวางสินค้าในโกดัง” ไม่ใช่แค่การซื้ออุปกรณ์จัดเก็บ แต่คือ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ ให้คลังสินค้าของคุณมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และพร้อมเติบโตในอนาคต  เลือกประเภทที่เหมาะกับลักษณะสินค้า และอย่าลืมเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ เช่น UPR Thailand เพื่อให้การติดตั้งและระบบคลังสินค้าของคุณพร้อมใช้งานอย่างมืออาชีพ

      บริษัท ยูพีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด > > โลจิสติกส์ >

      contact us ติดต่อเรา โทรหาเรา line Line Official